ประเมินความสูงฟรี

15 อาหารบำรุงกระดูก

รวมอาหารบำรุงกระดูกช่วยให้เด็กสูงได้จริง

การเจริญเติบโตของลูกน้อยเป็นสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนให้ความสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องความสูง ซึ่งมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการพัฒนาของเซลล์กระดูก การได้รับสารอาหารที่เหมาะสม อย่างวิตามินเพิ่มความสูง หรือแคลเซียมเพิ่มความสูง เป็นปัจจัยที่จะช่วยส่งเสริมให้ลูกน้อยมีความสูงตามเกณฑ์มาตรฐาน และมีสุขภาพแข็งแรง ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของโครงสร้างกระดูกของเด็ก และกลุ่มอาหารที่จะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ

เข้าใจการเสริมสร้างกระดูกในเด็ก

กระดูกของเด็กมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยรุ่น โดยช่วงที่มีการเจริญเติบโตมากที่สุดคือช่วงอายุ 9-15 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายมีการผลิตโกรทฮอร์โมนมากที่สุด ซึ่งโกรทฮอร์โมนคือ ฮอร์โมนการเจริญเติบโต โดยการได้รับสารอาหารที่จำเป็นในช่วงนี้จึงมีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะแคลเซียม วิตามินดี โปรตีน และแร่ธาตุต่างๆ ที่จะช่วยสร้างมวลกระดูกให้แข็งแรง และส่งเสริมการเจริญเติบโตด้านความสูง

15 กลุ่มอาหารบำรุงกระดูกที่เด็กควรได้รับ

การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วนเป็นหนึ่งในวิธีเพิ่มความสูงจะช่วยเสริมสร้างกระดูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาดูกันว่ามีอาหารกลุ่มใดบ้างที่ช่วยบำรุงกระดูก

กลุ่มที่ 1: อาหารจากนม

นม หรือผลิตภัณฑ์จากนมเป็นแหล่งแคลเซียมชั้นเยี่ยม ซึ่งสามารถคลายข้อข้องใจของผู้ปกครองนั่นก็คือ “นมทำให้สูงได้จริงไหม?” ซึ่งต้องบอกเลยว่าในนมวัว 200 มิลลิลิตร มีแคลเซียมมากถึง 204.67 มิลลิกรัม พิสูจน์แล้วสามารถทำให้สูงได้จริง นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์จากนมอื่นๆ เช่นโยเกิร์ต หรือเนย ที่ช่วยเสริมสร้างกระดูก และฟันให้แข็งแรง เด็กๆ ควรได้รับนมวันละ 2-3 แก้ว เพื่อการเจริญเติบโตที่สมวัย

กลุ่มที่ 2: ปลาทะเล

ปลาทะเลโดยเฉพาะปลาเล็กปลาน้อยที่สามารถรับประทานได้ทั้งก้าง เช่น ปลาซาร์ดีน ปลาทูน่า และปลาแซลมอน นอกจากจะอุดมไปด้วยแคลเซียมแล้ว ยังมีวิตามินดี โอเมก้า 3 ที่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและพัฒนาการของกระดูก โดยปลาซาร์ดีนเพียง 100 กรัม มีแคลเซียมมากถึง 537 มิลลิกรัม

กลุ่มที่ 3: ไข่

ไข่เป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูง พร้อมกับวิตามินดีที่สำคัญ ซึ่งช่วยในการดูดซึมแคลเซียม และการเจริญเติบโตของกระดูก การรับประทานไข่เป็นประจำจะช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของกระดูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความสูงได้เป็นอย่างดี

กลุ่มที่ 4: ถั่ว

ถั่วชนิดต่างๆ เช่น ถั่วเหลือง ถั่วแดง ถั่วดำ หรืออัลมอนด์ ที่อุดมไปด้วยฟีนิลอะลานีน แคลเซียม แมกนีเซียม และโปรตีนจากพืช ซึ่งล้วนมีความสำคัญต่อการพัฒนาของกระดูก โดยเฉพาะงาดำที่มีแคลเซียมมากกว่านมวัวถึง 8 เท่า

กลุ่มที่ 5: ผักใบเขียวเข้ม

ผักใบเขียวเข้มเช่น คะน้า ผักโขม ใบชะพลู และผักตระกูลกะหล่ำ เป็นอาหารที่มีแคลเซียมสูง และวิตามินเค ที่จำเป็นต่อการสร้างกระดูก โดยใบชะพลู 100 กรัม มีแคลเซียมสูงถึง 600 มิลลิกรัม และคะน้า 100 กรัม มีแคลเซียม 245 มิลลิกรัม

กลุ่มที่ 6: ผลไม้

ผลไม้หลากหลายชนิดมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกระดูก โดยเฉพาะมะเดื่อที่มีแคลเซียมสูงถึง 162 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม ส้มที่มีวิตามินซีช่วยในการดูดซึมแคลเซียม และกีวีที่อุดมไปด้วยวิตามินเค การรับประทานผลไม้หลากหลายชนิดจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการพัฒนาของกระดูกอย่างครบถ้วน

กลุ่มที่ 7: เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ

เนื้อสัตว์ไขมันต่ำเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูงที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของกระดูก อีกทั้งยังมีสังกะสีและวิตามินบี 12 ที่ช่วยในกระบวนการสร้างเซลล์กระดูก เด็กๆ ควรได้รับโปรตีนจากเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ เช่น อกไก่ เนื้อปลา หรือเนื้อวัวส่วนที่มีไขมันน้อย

กลุ่มที่ 8: อาหารทะเล

อาหารทะเลนอกเหนือจากปลา เช่น กุ้ง หอย ปู มีแร่ธาตุสำคัญหลายชนิด โดยเฉพาะแคลเซียม สังกะสี และซีลีเนียม ที่มีบทบาทในการพัฒนากระดูก กุ้งแห้งเพียง 100 กรัม มีแคลเซียมสูงถึง 1,160 มิลลิกรัม ซึ่งมากกว่าปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน

กลุ่มที่ 9: ธัญพืชไม่ขัดสี

ธัญพืชไม่ขัดสีเช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต และควินัว อุดมไปด้วยแมกนีเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญในการสร้างมวลกระดูก นอกจากนี้ยังมีวิตามินบีรวมที่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม และการทำงานของเซลล์กระดูก

กลุ่มที่ 10: เต้าหู้

เต้าหู้ หรือผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองเป็นแหล่งโปรตีน และแคลเซียมที่ดี โดยเฉพาะเต้าหู้แข็งที่มีแคลเซียมสูงถึง 507 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม นอกจากนี้ยังมีไอโซฟลาโวนที่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม และการพัฒนาของกระดูก

กลุ่มที่ 11: ผักรสหวาน

ผักรสหวานเช่น แครอท มันเทศ และฟักทอง อุดมไปด้วยวิตามินเอและเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยในการสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อกระดูก อีกทั้งยังมีวิตามินซีที่ช่วยในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญในการสร้างกระดูก

กลุ่มที่ 12: เมล็ดพืช

เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง และเมล็ดเจีย อุดมไปด้วยแมกนีเซียม สังกะสี และโอเมก้า3 ที่ช่วยในการพัฒนากระดูก การเพิ่มเมล็ดพืชลงในอาหารหรือของว่างจะช่วยเสริมสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของกระดูก

กลุ่มที่ 13: สาหร่าย

สาหร่ายทะเลชนิดต่างๆ เช่น สาหร่ายวากาเมะ นอรี และคอมบุ มีแร่ธาตุหลากหลายชนิด รวมถึงแคลเซียม ไอโอดีน และแมกนีเซียม ที่ช่วยในการพัฒนากระดูก และการเจริญเติบโตโดยรวม

กลุ่มที่ 14: น้ำมันที่มีประโยชน์

น้ำมันปลา น้ำมันมะกอก และน้ำมันอะโวคาโด มีกรดไขมันจำเป็นที่ช่วยในการดูดซึมวิตามินดีและแคลเซียม การเลือกใช้น้ำมันที่มีประโยชน์ในการปรุงอาหารจะช่วยเสริมประสิทธิภาพการดูดซึมสารอาหารที่จำเป็นต่อการพัฒนากระดูก

กลุ่มที่ 15: อาหารเสริมธรรมชาติ

อาหารเสริมจากธรรมชาติ เช่น น้ำผึ้ง ชาสมุนไพร และพืชสมุนไพรต่างๆ มีสารต้านอนุมูลอิสระ และแร่ธาตุที่ช่วยเสริมการทำงานของระบบกระดูก แต่ควรปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนให้เด็กรับประทานอาหารเสริมใดๆ

เทคนิคการเตรียมอาหารบำรุงกระดูกให้น่ารับประทาน

การทำให้เด็กๆ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์นั้นอาจเป็นความท้าทายสำหรับผู้ปกครอง เพราะเด็กๆ มักเลือกทานอาหารที่ตนเองชื่นชอบ การสร้างความน่าสนใจให้กับอาหารจึงเป็นสิ่งที่ผู้ปกครองไม่ควรมองข้าม โดยอาจเริ่มจากการจัดจานให้สวยงามด้วยการแต่งแต้มอาหารให้เป็นรูปการ์ตูนที่เด็กชื่นชอบ การใช้จานชามที่มีสีสันสดใส หรือการตกแต่งอาหารให้มีรูปร่างน่ารักๆ เช่น ทำข้าวปั้นรูปสัตว์ต่างๆ หรือจัดผักผลไม้เป็นภาพที่น่าสนใจ

นอกจากนี้ การให้เด็กมีส่วนร่วมในการเตรียมอาหารก็เป็นวิธีที่ดี เพราะจะทำให้พวกเขารู้สึกภูมิใจ และอยากลองชิมอาหารที่ตัวเองมีส่วนร่วมในการทำ การเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับอาหารแต่ละชนิด หรือการสร้างเกมสนุกๆ ระหว่างมื้ออาหารก็สามารถช่วยกระตุ้นความสนใจของเด็กได้

ข้อควรระวัง และคำแนะนำสำหรับอาหารบำรุงกระดูก

เด็กผู้ชายกำลังดื่มนม

แม้ว่าอาหารบำรุงกระดูกจะมีความสำคัญ แต่การรับประทานที่มากเกินไปอาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี ควรคำนึงถึงปริมาณที่เหมาะสมตามวัย และความต้องการของร่างกาย โดยเฉพาะอาหารเสริมต่างๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนให้เด็กรับประทาน

การดูแลสุขภาพกระดูกไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องอาหารเท่านั้น การออกกำลังกายที่เหมาะสม เช่น การออกกำลังกายเพิ่มความสูง อย่างการวิ่งเล่น หรือกระโดดเชือก ช่วยกระตุ้นการเสริมสร้างกระดูก การนอนหลับที่เพียงพออย่างน้อย 8-10 ชั่วโมงต่อวัน และการได้รับแสงแดดในช่วงเช้าประมาณ 15-30 นาที ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของกระดูกเช่นกัน

การเพิ่มความสูงไม่ใช่แค่อาหารบำรุงกระดูกเพียงอย่างเดียว

การเสริมสร้างกระดูกในเด็กเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจอย่างต่อเนื่อง การเลือกรับประทานอาหารบำรุงกระดูกที่มีประโยชน์จากทั้ง 15 กลุ่มที่กล่าวมา ควบคู่กับการดูแลสุขภาพด้านอื่นๆ อย่างเหมาะสม เช่น การออกกำลังกาย หรือการนอนหลับให้เพียงพอจะช่วยให้เด็กๆ มีพัฒนาการด้านความสูงที่ดี มีกระดูกแข็งแรง  และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพสมบูรณ์

Professional Health เราเป็นคลินิกเพิ่มความสูงที่มีประสบการณ์ในการให้คำปรึกษามามากกว่า 3,000 เคส หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของลูก หรือต้องการคำแนะนำเฉพาะด้าน เรายินดีให้คำปรึกษาและวางแผนพัฒนาความสูงรายบุคคล