ภาวะขาดไทรอยด์ในเด็กเป็นปัญหาสุขภาพที่ส่งผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโตและความสูงของลูก ความกังวลของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการให้ลูกมีพัฒนาการสมวัยเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ การรู้และเข้าใจเกี่ยวกับภาวะนี้จะช่วยให้คุณสังเกตอาการผิดปกติและดูแลลูกได้อย่างทันท่วงที
ไทรอยด์ฮอร์โมนผลิตจากต่อมไทรอยด์บริเวณลำคอด้านหน้า มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการทำงานของเซลล์ต่างๆ โดยเฉพาะการเจริญเติบโตของโครงสร้างกระดูก การพัฒนาสมอง และการเผาผลาญพลังงาน เมื่อร่างกายผลิตฮอร์โมนนี้ไม่เพียงพอ จะส่งผลให้การเจริญเติบโตและพัฒนาการล่าช้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความสูงที่อาจต่ำกว่าศักยภาพที่ควรจะเป็น
การทราบสาเหตุของภาวะขาดไทรอยด์ในเด็กจะช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ การวินิจฉัยที่ถูกต้องและรวดเร็วเป็นกุญแจสำคัญในการวางแผนการรักษาที่เหมาะสมและตรงจุด
ภาวะนี้เกิดจากความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ บางรายอาจไม่มีต่อมไทรอยด์ หรือมีแต่ขนาดเล็กผิดปกติ หรือต่อมไทรอยด์อยู่ผิดตำแหน่ง ทำให้ไม่สามารถผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ได้เพียงพอ ส่งผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโตด้านความสูงและพัฒนาการของสมอง หากได้รับการวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่แรกเกิด เด็กจะมีโอกาสเติบโตอย่างปกติได้
ไอโอดีนเป็นสารอาหารสำคัญในการสร้างฮอร์โมนไทรอยด์ การขาดไอโอดีนทั้งในมารดาระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร รวมถึงในตัวเด็กเอง จะส่งผลให้การผลิตไทรอยด์ฮอร์โมนไม่เพียงพอ ทำให้เด็กมีความสูงไม่เป็นไปตามเกณฑ์ การเสริมไอโอดีนผ่านอาหารที่มีแคลเซียมและเกลือไอโอดีนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
ต่อมใต้สมองมีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนกระตุ้นไทรอยด์ หากมีความผิดปกติ จะทำให้การกระตุ้นต่อมไทรอยด์บกพร่อง นอกจากนี้ โรคภูมิคุ้มกันต่อต้านตนเองยังอาจทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันมาทำลายต่อมไทรอยด์ ทั้งสองกรณีนี้ส่งผลให้ความสูงและการเจริญเติบโตของเด็กไม่เป็นไปตามเกณฑ์
สาเหตุอื่นๆ ได้แก่ การผ่าตัดต่อมไทรอยด์ การฉายรังสีบริเวณคอ หรือผลข้างเคียงจากยาบางชนิด ในกรณีเหล่านี้ การรักษาอาจแตกต่างกันไปตามสาเหตุ จึงจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การสังเกตอาการตั้งแต่ระยะแรกมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากภาวะขาดไทรอยด์ในเด็กส่งผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโตด้านความสูงและพัฒนาการ อาการแสดงจะแตกต่างกันไปตามช่วงอายุของเด็ก
ในช่วงแรกอาจสังเกตได้จากอายุครรภ์มากกว่า 42 สัปดาห์ น้ำหนักแรกเกิดมากกว่าปกติ กระหม่อมมีขนาดใหญ่โดยเฉพาะกระหม่อมหลัง ทารกนอนหลับมาก ดูดนมไม่ดี และอาจสำลักนมบ่อย ความผิดปกติเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณแรกของภาวะขาดไทรอยด์ในเด็ก
อาการที่พบได้คือ ตัวเหลืองนาน ท้องผูก ดูดนมไม่ดี น้ำหนักขึ้นน้อย ลิ้นโตคับปาก ท้องป่อง สะดือจุ่น และผิวแห้งมีลาย ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงภาวะขาดไทรอยด์ ผู้ปกครองควรสังเกตและปรึกษาแพทย์หากพบอาการเหล่านี้
ในช่วงนี้จะเห็นความล่าช้าของการเจริญเติบโตและพัฒนาการชัดเจนขึ้น รวมถึงอาการเสียงแหบ ท้องผูก ผิวแห้งหยาบ และตัวบวม การเปรียบเทียบพัฒนาการกับเกณฑ์มาตรฐานจะช่วยบ่งชี้ความผิดปกติได้ชัดเจนขึ้น
ในช่วงนี้จะเห็นความล่าช้าของการเจริญเติบโตอย่างชัดเจน โดยเฉพาะความสูงที่น้อยกว่าเกณฑ์ ลักษณะตัวเตี้ย ขาสั้น และฟันขึ้นช้า การติดตามความสูงและน้ำหนักอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้สังเกตความผิดปกติได้เร็วขึ้น
อาการที่พบได้คือ เหนื่อยง่าย ง่วงนอนมาก การเรียนรู้ช้า น้ำหนักเพิ่มโดยไม่สัมพันธ์กับการกิน และที่สำคัญคือ การเจริญเติบโตด้านความสูงที่ช้ากว่าเกณฑ์อย่างเห็นได้ชัด ในเด็กหญิงอาจพบประจำเดือนมาผิดปกติร่วมด้วย
หากไม่ได้รับการรักษา ภาวะขาดไทรอยด์จะส่งผลถาวรต่อสมองและร่างกาย โดยเฉพาะในช่วง 3 ปีแรกของชีวิต ซึ่งเป็นช่วงสำคัญของการพัฒนาสมอง เด็กอาจมีสติปัญญาต่ำกว่าเกณฑ์ พัฒนาการทางภาษาล่าช้า และมีความบกพร่องทางการเคลื่อนไหว
นอกจากนี้ ยังส่งผลต่อการเจริญเติบโตทางร่างกาย ทำให้เด็กตัวเตี้ย ไม่สมส่วน และมีความสูงน้อยกว่าศักยภาพที่ควรจะเป็น หรืออาจเกิดภาวะแคระเกร็น การวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็วจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันผลกระทบเหล่านี้
การวินิจฉัยที่รวดเร็วและถูกต้องเป็นกุญแจสำคัญในการรักษา ปัจจุบันมีวิธีการตรวจที่แม่นยำซึ่งช่วยให้สามารถเริ่มการรักษาได้ตั้งแต่ระยะแรก
การตรวจนี้เป็นมาตรฐานสำคัญที่ช่วยค้นหาภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมนตั้งแต่ระยะเริ่มต้น โดยทั่วไปจะทำเมื่อทารกอายุประมาณ 48-72 ชั่วโมง ด้วยการเจาะเลือดจากส้นเท้าเพื่อตรวจวัดระดับไทรอยด์ การตรวจคัดกรองนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากในช่วงแรกทารกอาจยังไม่แสดงอาการที่ชัดเจน
เมื่อสงสัยว่าเด็กมีภาวะขาดไทรอยด์ แพทย์จะสั่งตรวจวัดระดับฮอร์โมนไทรอยด์ในเลือด ซึ่งประกอบด้วยการตรวจ TSH, T4 และ Free T4 ค่าเหล่านี้จะบ่งชี้การทำงานของต่อมไทรอยด์และช่วยวินิจฉัยภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมนได้อย่างแม่นยำ
ในบางกรณี อาจต้องมีการตรวจเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง เช่น การตรวจอัลตราซาวด์ต่อมไทรอยด์ การตรวจสแกนต่อมไทรอยด์ด้วยเทคนิคพิเศษ หรือการตรวจหาภูมิคุ้มกันที่ต่อต้านต่อมไทรอยด์ การทราบสาเหตุที่แท้จริงจะช่วยให้แพทย์วางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม
การรักษาภาวะขาดไทรอยด์ส่วนใหญ่ใช้ยาฮอร์โมนไทรอยด์ชนิดสังเคราะห์ (Levothyroxine) เพื่อทดแทนฮอร์โมนที่ร่างกายขาด การได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและทันเวลาจะช่วยให้เด็กสามารถเจริญเติบโตและมีพัฒนาการด้านความสูงเป็นปกติได้
นอกจากการรักษาด้วยยา การดูแลแบบองค์รวมที่คำนึงถึงปัจจัยทางโภชนาการ การออกกำลังกายที่เหมาะสม และการพักผ่อนที่เพียงพอ จะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กได้อย่างเต็มศักยภาพ เพื่อให้เด็กเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ทั้งด้านร่างกาย สติปัญญา และอารมณ์ ติดต่อ Professional Health เพื่อรับคำปรึกษาได้แล้ววันนี้