ปัจจุบันเด็ก ๆ ต้องเผชิญความท้าทายมากมาย ทั้งการเรียน การแข่งขัน และความคาดหวังจากสังคม การสร้าง Self Esteem ในเด็ก หรือการเห็นคุณค่าในตัวเองจึงเป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่ต้องใส่ใจ เพราะนี่คือรากฐานสำคัญที่จะช่วยให้ลูกเติบโตอย่างมั่นคง และมีความสุข
Self Esteem ในเด็ก คือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม เด็กที่มี Self Esteem สูงจะกล้าเรียนรู้สิ่งใหม่ มีความมั่นใจในการแก้ปัญหา และสามารถรับมือกับความท้าทายได้ดี นอกจากนี้ ยังส่งผลดีต่อการเรียนรู้ การสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น และการพัฒนาทักษะชีวิตที่จำเป็น
การสร้าง Self Esteem ในเด็กเริ่มต้นจากการให้ความรัก และการยอมรับอย่างไม่มีเงื่อนไข พ่อแม่ควรสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย พร้อมสนับสนุนให้ลูกได้เรียนรู้ และพัฒนาตามศักยภาพของตนเอง ที่สำคัญคือการชื่นชมในความพยายามมากกว่าผลลัพธ์ และการสอนให้ลูกเข้าใจว่าความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ โดยวิธีฉบับ Professional Health ที่เป็นที่คลินิกเพิ่มความสูง มีวิธีพร้อมเทคนิคที่ง่าย พ่อแม่สามารถนำไปใช้ได้เลยดังนี้
ความกลัวเป็นอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางพัฒนาการ และความมั่นใจของเด็ก ผู้ปกครองควรช่วยให้เด็กเข้าใจว่าความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ ควรสอนให้เด็กมองความท้าทายเป็นโอกาสในการพัฒนา ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว พร้อมทั้งอยู่เคียงข้าง คอยให้กำลังใจอยู่เสมอ
การให้เด็กได้ฝึกตัดสินใจด้วยตนเองเป็นการสร้างความมั่นใจ และความรับผิดชอบ ผู้ปกครองควรเริ่มจากการให้ทางเลือก 2-3 ทางที่เหมาะสมกับวัย เช่น การเลือกเสื้อผ้า อาหาร หรือกิจกรรมที่จะทำ พร้อมทั้งช่วยให้เด็กเข้าใจถึงผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจนั้น ๆ การฝึกแบบนี้จะช่วยพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ และความมั่นใจในการตัดสินใจของเด็ก
การกอดไม่เพียงแต่แสดงความรักความอบอุ่น แต่ยังเป็นการสื่อสารถึงการยอมรับในตัวตนของเด็กอย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่ว่าเด็กจะทำผิดหรือถูก ประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว การกอดจะช่วยให้เด็กรู้สึกปลอดภัยและมั่นคงทางจิตใจ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นว่าพวกเขาเป็นที่รัก และมีคุณค่าเสมอ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เด็กรู้สึกท้อแท้ หรือผิดหวัง
แทนที่จะรีบเข้าไปแก้ปัญหาให้เด็กทันที ผู้ปกครองควรใช้วิธีการชวนคิด และวิเคราะห์ร่วมกัน ถามคำถามที่กระตุ้นให้เด็กคิดหาทางออก เช่น “ลูกคิดว่าเราควรจะแก้ปัญหานี้อย่างไรดี?” “ถ้าเราทำแบบนี้ ผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร?” การฝึกให้เด็กคิดแก้ปัญหาด้วยตนเองจะช่วยพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ ความมั่นใจ และความภาคภูมิใจเมื่อสามารถแก้ปัญหาได้สำเร็จ
การสร้าง Self Esteem ในเด็กต้องปรับเปลี่ยนไปตามช่วงวัย และพัฒนาการ เพราะเด็กแต่ละวัยมีความต้องการและความพร้อมที่แตกต่างกัน พ่อแม่จึงควรเข้าใจและปรับวิธีการส่งเสริม Self Esteem ให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย เพื่อให้การพัฒนาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และต่อเนื่อง
ในช่วงวัยนี้ การตอบสนองความต้องการพื้นฐานอย่างสม่ำเสมอ การสร้างความผูกพันผ่านการสัมผัส การอุ้ม และการพูดคุย จะช่วยสร้างความรู้สึกปลอดภัยและเป็นที่รัก ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการสร้าง Self Esteem ในเด็ก
เด็กวัยนี้เริ่มสำรวจโลก และต้องการความเป็นอิสระมากขึ้น พ่อแม่ควรสนับสนุนให้ลูกได้ทดลองทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง ให้โอกาสในการเลือก และตัดสินใจในเรื่องง่าย ๆ พร้อมแสดงความชื่นชมเมื่อลูกพยายามทำสิ่งใหม่ ๆ
ช่วงวัยแห่งการเรียนรู้ และจินตนาการ พ่อแม่ควรส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ให้โอกาสในการแสดงออก และสนับสนุนการเล่นที่ช่วยพัฒนาทักษะทางสังคม เช่น การออกกำลังกายเพิ่มความสูงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นแบดมินตัน หรือการเล่นบาสเก็ตบอล ที่นอกจากจะพัฒนาการเจริญเติบโตแล้วยังช่วยส่งเสริมการอยู่ร่วมกับสังคม การเล่นเป็นทีม นอกจากนี้การมอบหมายงานง่าย ๆ ที่เหมาะสมกับวัยเพื่อสร้างความรู้สึกมีคุณค่าได้เช่นกัน
เด็กวัยนี้เริ่มเปรียบเทียบตนเองกับเพื่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม เช่น ความสูงที่เด็ก ๆ ต่างหาวิธีเพิ่มความสูง เพื่อมาเปรียบเทียบกับเพื่อนอยู่เสมอ ซึ่งพ่อแม่ควรช่วยให้ลูกค้นพบความเป็นตัวของตัวเอง ความสามารถพิเศษ สนับสนุนกิจกรรมที่สนใจ แทนความกังวลที่ต้องเปรียบเทียบกับคนอื่น ๆ อยู่เสมอ ควรชี้แนะสอนทักษะการจัดการกับความสำเร็จ และความล้มเหลว
เด็กที่มี Self Esteem ต่ำมักจะแสดงออกผ่านพฤติกรรมต่าง ๆ เช่น ขาดความมั่นใจ หลีกเลี่ยงการแสดงความคิดเห็น กลัวการลองทำสิ่งใหม่ หรือแสดงอาการวิตกกังวล
วิธีแก้ไขที่พ่อแม่สามารถทำได้
การพัฒนา Self Esteem ในเด็กเป็นกระบวนการต่อเนื่องที่ต้องอาศัยความเข้าใจ ความอดทน และความใส่ใจจากพ่อแม่ การสร้างรากฐานที่มั่นคงตั้งแต่วัยเด็กจะช่วยให้ลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความเชื่อมั่นในตนเอง มีความยืดหยุ่นทางอารมณ์ และพร้อมที่จะเผชิญกับความท้าทายในชีวิต
ที่ Professional Health เราไม่เพียงให้คำแนะนำด้านการพัฒนาความสูงเพียงอย่างเดียว เรายังพร้อมเป็นที่ปรึกษาที่ผู้ปกครองสามารถวางใจได้ในการดูแลพัฒนาการของลูก ด้วยประสบการณ์ให้คำปรึกษา และดูแลมามากกว่า 3,000 เคส เรามุ่งมั่นสร้างรากฐานที่แข็งแรงให้กับเด็กไทย เพื่อการเติบโตอย่างมั่นใจ และมีความสุข ติดต่อเราได้ที่